จากตอนที่แล้วเราได้เจาะลึกถึงเรื่องInternational taxและได้ทราบแล้วว่าจะส่งผลให้เงินไหลกลับไปยังประเทศอเมริกา ในตอนนี้เราจะมาดูถึงนโยบายที่เกี่ยวกับสุขภาพบ้างค่ะ
นโยบาย
|
Clinton
|
Trump
|
ด้านสุขภาพ
|
-ดำเนินเรื่องObamacareต่อไป
-ทำให้ยาราคาถูกลง
|
-ยกเลิกเรื่องObamacare
-ทำให้ยาราคาถูกลง
|
จากตารางข้างบนเราจะเห็นได้ว่าทั้งสองคนมีเรื่องที่มองต่างกันคือเรื่องObamacare นโยบายเรื่องนี้มีผลดีต่อกลุ่มโรงพยาบาล เพราะฉะนั้นหากยังมีObamacare จะส่งผลบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาล ถ้าไม่มี ก็จะส่งผลในเชิงลบต่อกลุ่มโรงพยาบาล
ส่วนในเรื่องของราคายา ทั้งสองคนต่างอยากจะทำให้ยามีราคาที่ถูกลง ดังนั้นไม่ว่าคลินตันหรือทรัมป์จะได้เป็นประธานาธิบดี จะส่งผลในเชิงลบต่อกลุ่มผู้ผลิตยาและBiotech แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยาโดยส่วนมากมีตลาดในอเมริกาคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20 % ส่วนอีก 80% เป็นการขายนอกอเมริกา จึงจะไม่ส่งผลมากมายนัก ส่วนกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการที่ราคายาถูกลงก็คือกลุ่มที่เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายยา เพราะเมื่อราคายาถูกลง ก็น่าจะผลักดันให้มียอดขายโตขึ้นค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อดูจากสถิติย้อนหลังแล้ว กลุ่มที่เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายยามักจะunderperformในช่วงก่อนการเลือกตั้ง หลังจากนั้นจะoutperformในปีหลังการเลือกตั้งค่ะ
อ่าน " ผลกระทบของการเลือกตั้งอเมริกาต่อตลาดหุ้น ตอนที่ 1" บอกถึงนโยบายที่ทั้งสองคนมองต่างก้น ตามอ่านลิงค์นี้ค่ะ
อ่าน " ผลกระทบของการเลือกตั้งอเมริกาต่อตลาดหุ้น ตอนที่ 2" บอกถึงนโยบายที่ทั้งสองคนมองเหมือนกัน ตามอ่านลิงค์นี้ค่ะ
อ่าน" ผลกระทบของการเลือกตั้งอเมริกาต่อตลาดหุ้น ตอนที่ 3" เจาะลึกเรื่องนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ตามอ่านลิงค์นี้ค่ะ
http://trade2bepro.blogspot.com/2016/11/3.html
อ่าน" ผลกระทบของการเลือกตั้งอเมริกาต่อตลาดหุ้น ตอนที่ 4" เจาะลึกเรื่องนโยบายด้านต่างประเทศ ตามอ่านลิงค์นี้ค่ะ
http://trade2bepro.blogspot.com/2016/11/4_5.html
อ่าน" ผลกระทบของการเลือกตั้งอเมริกาต่อตลาดหุ้น ตอนที่ 5" เจาะลึกเรื่องนโยบายด้านInternational Tax ตามอ่านลิงค์นี้ค่ะ
http://trade2bepro.blogspot.com/2016/11/5.html
****บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อแสดงความคิดเห็น มิได้เป็นคำแนะนำซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น