SET

SET FX
Commodities are powered by Investing.com UK

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การเปิดบัญชีที่ต่างประเทศ ตอนที่ 1



การเปิดบัญชีธนาคารและบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่ต่างประเทศ
ฮ่องกง
บัญชีธนาคาร
การไปเปิดบัญชีธนาคารที่ประเทศฮ่องกงนั่น หากเราเป็นแค่นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารที่ฮ่องกงได้ นี่คือข้อมูลล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน(.. 2555)ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้เดินทางไปที่ฮ่องกงเพื่อเปิดบัญชีธนาคารที่ฮ่องกงและได้เตรียมเอกสารไปครบถ้วนตามที่ธนาคารได้อีเมล์ตอบกลับมาคือ
To apply for a new account, the following documents are required:
 
- The original of your identification document, eg passport
- A proof of your existing residential address (in English), eg a bank
statement or utility bill issued within the past three months, etc.  The
address proof should bear your name and current residential address. The
residential address must not be a post office box.
- The proof of your permanent address is also required if it is
different from your existing residential address.
- An initial deposit of HK$2,000
We offer integrated account (ie HSBC Premier, HSBC Advance and 

SmartVantage account) to customers.  Our integrated account includes a 

Hong Kong dollar (HKD) Savings account, an HKD Current account, Savings 

accounts in major foreign currencies including USD, Time Deposit, and 

Gold.

 

You can appreciate that the Bank will consider customers’ applications 

at our discretion and after assessment in compliance with our internal 

guidelines.  The acceptance of this application will be at the sole 

discretion of the Bank. 
ดังนั้นผู้เขียนจึงได้เตรียมเอกสารไปดังนี้
1.Passport
2.Proof of Address จะเป็นบิลค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำค่าไฟ Bank Statement(จากประสบการณ์ของผู้เขียนต้องเป็นBank Statementที่ออกโดยธนาคารที่มีชื่ออยู่ในสมาคมธนาคารของฮ่องกงเท่านั้น เพราะผู้เขียนได้นำbank statementที่ออกโดยธนาคารในประเทศไทยไปด้วย แต่ธนาคารที่ฮ่องกงก็ไม่รับ บอกว่าไม่ได้อยู่ในสมาคมธนาคารของฮ่องกง) ที่ออกมาไม่เกินสามเดือนและต้องเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าไม่เป็นภาษาอังกฤษต้องเอาไปแปลโดยNotary publicหรือpracticing lawyerแล้วให้เขาเซ็นรับรองสำเนาหลังจากนั้นไปให้กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศรับรองอีกทีนึง ค่าแปลเอกสารตรงนี้ มีบริษัทเอกชนไปดำเนินการให้ถ้าขี้เกียจไปทำเอง ส่วนผู้อ่านจะเลือกใช้บริการที่ไหนนั้น ลองserchหาโดยใช้googleดู หลังจากนั้นเลือกเอาตามสะดวก แต่ที่ผู้เขียนลองหาข้อมูลดูเสียค่าใช้จ่ายชุดละ2,200บาทโดยประมาณ(ค่าแปลเอกสาร+ค่ารับรองคำแปล+ค่าเอาสำเนาและคำแปลไปรับรองที่กรมการกงสุล) ถ้าไม่อยากเสียเยอะก็แปลเองก็ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องเสียให้กรมการกงสุลรับรองชุดละ 400 บาท แต่อยากจะแนะนำให้เอาไปให้บริษัทเอกชนดำเนินการให้จะดีกว่า เพราะผู้เขียนแปลเองและเป็นไปตามขั้นตอนของกรมการกงสุลทุกอย่าง เสร็จแล้วเอาไปให้กรมการกงสุลรับรอง พอเอาเอกสารไปยื่น ทางธนาคารบอกไม่รับเพราะเขาต้องการให้Notary publicหรือpracticing lawyerแปลแล้วให้กรมการกงสุลรับรองเท่านั้น
ถ้าเราแปลเองแม้ว่าจะถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่างจนได้รับตรารับรองจากกรมการกงสุล ทางธนาคารก็ปฏิเสธเอกสารของเราได้อยู่ดีถ้าผู้แปลไม่ใช่Notary publicหรือpracticing lawyer


บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
ใช้หลักฐานเหมือนกับที่เปิดบัญชีธนาคาร แต่ที่อยากจะเตือนไว้คือถึงใบเสร็จของเราเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่ถ้าเราไม่ได้เดินทางเอาเอกสารไปยื่นด้วยตัวเอง(บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างจากบัญชีธนาคารตรงที่ยินยอมให้ผู้สมัครยื่นฟอร์มและส่งเอกสารทางInternetได้แล้วค่อยส่งตัวจริงตามไปทีหลัง บางแห่งก็ไม่ต้องส่งตัวจริงไปให้ก็ได้) ต้องเอาสำเนาทั้งหมดไปรับรองโดยNotary PublicหรือPracticing lawyerเสียค่ารับรองประมาณ 500 บาทต่อแผ่น ทั้งนี้ถ้าไม่เดินทางไปด้วยตัวเอง สำเนาpassportก็ต้องส่งไปให้กรมการกงสุลรับรองสำเนา จะรับรองสำเนาด้วยตัวเองไม่ได้
สรุปถึงตรงนี้ผู้เขียนได้เตรียมเอกสารเรียบร้อยทุกอย่าง แต่ปรากฎว่าเมื่อเดินทางไปถึงแล้ว ทุกธนาคารให้การปฏิเสธที่จะเปิดบัญชีธนาคารให้ ตอนแรกผู้เขียนนึกว่าเพราะเขาต้องการเอกสารให้แปลโดยNotary Publicแล้วไปรับรองโดยกรมการกงสุล 
ผู้เขียนจึงต้องวิ่งวุ่นหาคนแปลให้แล้วไปให้กงสุลไทยในฮ่องกงรับรองสำเนาให้แล้วไปยื่นใหม่ สุดท้ายก็บอกว่าไม่ได้อีกเพราะเป็นนักท่องเที่ยว (ตอนแรกเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นคนไทยไปทำงานที่ฮ่องกง)จึงได้รู้ว่าที่เปิดไม่ได้เนื่องจากว่าตอนนี้ที่ฮ่องกงได้เปลี่ยนกฎแล้วว่าไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวมาเปิดบัญชีได้โดยเสรีเหมือนเมื่อก่อน วันที่ผู้เขียนไปที่ธนาคารอีกครั้ง มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเองก็อยากจะมาเปิดบัญชีธนาคารเหมือนกัน แต่ก็ถูกปฎิเสธไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นมีธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์ตเตอร์เพียงแห่งเดียวที่เกือบจะเปิดบัญชีให้ เนื่องด้วยว่าพนักงานอาจจะยังไม่ทราบกฏใหม่ก็เป็นได้ แต่พอสักพักเจ้าหน้าที่complianceก็ออกมาบอกว่าถ้าผู้เขียนจะเปิดบัญชีจริงๆ เขาจะส่งจดหมายมาให้ที่เมืองไทยแล้วให้ผู้เขียนเอาจดหมายฉบับนั้นกลับมาที่ฮ่องกงเพื่อเปิดบัญชี คือจะเป็นนักท่องเที่ยวก็เปิดได้แต่ต้องมีคนฮ่องกงreferให้นั่นคือเจ้าหน้าที่ธนาคารนั่นเองและบัญชีต้องฝากเงินไม่ต่ำกว่าประมาณ 500,000บาท อีกทั้งยังต้องรักษายอดให้ไม่ต่ำไปกว่านี้ในแต่ละเดือนด้วย ไม่งั้นต้องเสียค่าปรับเดือนละประมาณ 1000 บาท
สำหรับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์นั้น ผู้เขียนเปิดได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร จะติดตรงบัญชีที่เปิดกับทางSaxo bankที่ต้องการเอกสารยุ่งยากกว่าที่อื่น แต่ถ้าผู้อ่านคิดจะเปิดกับพวกOnline brokerหรือForex brokerเช่น FXCM, Interactive Brokersเอกสารก็ไม่ยุ่งยากมาก ไม่ต้องให้พวกNotary PublicหรือPracticing lawyerรับรองอะไรทั้งนั้น ทำเองได้หมด
สรุปคือปัจจุบันผู้ที่ต้องการจะเปิดบัญชีธนาคารที่ฮ่องกงโดยที่ไม่มีWork permitหรือStudent visaไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารที่ฮ่องกงได้โดยเสรีอีกต่อไป แต่การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ยังคงทำได้โดยเสรี ประเด็นสำคัญคือถึงเราจะเปิดบัญชีหลักทรัพย์ได้ แต่เปิดบัญชีธนาคารเพื่อโอนเงินเข้าไปซื้อขายไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี

**โปรดติดตามรีวิวต่อไปสำหรับการเปิดบัญชีธนาคารและบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่สิงคโปร์**

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น